การเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็ก 09/2024

ในปัจจุบัน ตอนนี้ประกันสุขภาพเด็กหลายๆบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงแผนประกันบางบริษัทมีการยกเลิกการขายประกันสุขภาพเด็กไปแล้ว และหลายๆบริษัท มีการเพิ่มเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับประกันสุขภาพเด็ก เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพเด็กอยากให้ลองอ่านบทความนี้ก่อนครับ

ปัจจัยในการเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็ก มีดังนี้

1.ต้องดูว่า ประกันสุขภาพเด็ก แบบ มีความรับผิดส่วนแรก หรือไม่  

ตอนนี้มีหลายบริษัทที่รับทำประกันสุขภาพเด็กแต่ คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาประกันให้ลูกทุกคนจะต้องดูว่า แผนประกันที่ดูนั้นมีความรับผิดส่วนแรกหรือไม่ ถ้าหากว่า เป็นแบบประการที่มีความรับผิดส่วนแรก ลูกค้าจะต้องมีส่วนร่วมจ่ายตามเงื่อนไขของความรับผิดส่วนแรกนั้นก่อนส่วนที่เหลือค่อยไปเคลมประกันเช่นแบบประกันมีความรับผิดส่วนแรก 20,000 บาทต่อปี เพราะฉะนั้นทุกๆปี ครั้งแรกที่ไปโรงพยาบาลใช้ประกันรักษา วงเงิน 20,000 บาทแรกที่โรงพยาบาลเรียกเก็บลูกค้าจะต้องเป็นคนจ่ายเองก่อนค่ารักษาส่วนที่เกิน 20,000 บาทแรกนั้นถึงค่อยมาเบิกประกันได้ครับ 

2.แบบประกันเด็กนั้นเป็นแบบมีส่วนร่วมจ่ายหรือเปล่า

 ปัจจุบันตอนนี้มีบางบริษัทที่ขายประกันสุขภาพเด็กที่เป็นแบบมีส่วนร่วมจ่ายตามเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ ลูกค้าต้องมีส่วนร่วมจ่าย 20% ของค่ารักษาพยาบาลทุกๆครั้งที่เข้าใช้บริการรักษาโรงพยาบาล  ตัวอย่างเช่นถ้าหากว่าลูกค้าเข้ารักษา ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลเรียกเก็บค่ารักษามา 100,000 บาท ลูกค้าจะต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษา 20,000 บาทครับ 

3.แบบประกันสุขภาพเด็กนั้นเป็นแบบแยกค่าใช้จ่ายหรือแบบเหมาจ่าย

ประกันสุขภาพเด็กมีหลายแบบมากในปัจจุบัน เบี้ยประกันแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไปด้วยครับ  ถ้าเป็นแบบประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายตามจริงข้อดีคือลูกค้าจะได้รับวงเงินรักษาที่สูงสบายใจเรื่องค่ารักษา แต่ เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นแบบประกันสุขภาพเด็กแบบแยกค่าใช้จ่าย ข้อเสียคือได้วงเงินรักษา ไม่เยอะมากถ้าเทียบกับแบบเหมาจ่าย แต่เบี้ยประกันก็จะถูกกว่า ครับ  ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณในการ ซื้อประกันของลูกค้าด้วยนะครับ

4.แบบประกันสุขภาพเด็กนั้นมีค่ารักษาผู้ป่วยนอกหรือไม่

แผนประกันสุขภาพเด็กในตอนนี้ มีให้เลือกทั้งแบบที่มีคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยนอก ซึ่งถ้าหากว่าลูกเจ็บป่วยไม่สบายแต่ไม่ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลก็สามารถไปใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกได้ครับโดยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่แบบประกันที่มีค่ารักษาผู้ป่วยนอกเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นเช่นกันครับ

5.บริษัทประกันนั้น มีความมั่นคงในเรื่องของการรับประกันลูกค้าอย่างต่อเนื่องหรือไม่

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ เพราะว่าการทำประกันสุขภาพนั้นถ้าหากว่า ลูกเกิดป่วยไม่สบายบ่อยๆแล้ว ไปใช้ค่ารักษา บ่อยครั้ง หรือเครมเยอะๆถ้าหากว่าบริษัทประกันนั้น ยกเลิกประกัน หรือเพิ่มเบี้ยประกันระหว่างทางได้ครับ

เพราะว่าประกันสุขภาพไม่เหมือนประกันรถยนต์นะครับ ถ้าหากว่าเคยมีประวัติการเจ็บป่วยมาแล้ว เวลาจะเปลี่ยนบริษัทประกัน หรือ ทำที่ใหม่ก็จะสามารถทำได้ยากขึ้นครับบางทีบริษัทประกันใหม่จะต้องมีข้อยกเว้นในเรื่องของโรคที่เคยเป็นมาก่อนด้วยครับ

6.เบี้ยประกันสุขภาพทั้งเสียทิ้งหรือว่ามีเงินออม ให้ด้วยครับ

คุณพ่อคุณแม่ลองศึกษาดู แบบประการที่สนใจดีๆนะครับเพราะว่าบางแบบประกันเบี้ยประกันพอๆกันเลยแต่ บางบริษัทเป็นเบี้ยเสียทิ้ง และบางบริษัทเป็นเบี้ยไม่เสียทิ้งมีส่วนที่เป็นเงินสะสมไว้ให้ลูกในอนาคตด้วยนะครับ 

7.ตัวแทนประกันที่คอยดูแลหลังการขาย

ข้อนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ การซื้อประกันสุขภาพให้ลูก นอกจาก เหตุผลต่างๆข้างต้นแล้วตัวแทนประกันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ อีกเรื่องนึงนะครับเพราะว่าเวลาลูกเกิดไม่สบายเจ็บป่วยถ้าหากว่า ต้องการคำปรึกษา จากตัวแทนประกัน เพราะจะ ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ของประกันได้อย่างคุ้มค่า รวมถึง เรื่องของการบริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเคลมสินไหม การขอส่วนลดโรงพยาบาล และณตอนนี้บางโรงพยาบาลมีโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษให้กับตัวแทนประกันที่มีคุณวุฒิ MDRT ก็จะได้ส่วนลดเวลาไปใช้บริการ รักษาพยาบาลนั้นๆเพิ่มขึ้นด้วยครับ