ประกันสุขภาพ AIA
หมดกังวลเมื่อต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ให้เอไอเอแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ประกันสุขภาพของเอไอเอ โดดเด่นอย่างไร
เอไอเอมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ให้เลือกตามความต้องการ
- ประเภทของประกันสุขภาพที่หลากหลาย เช่น ประกันสำหรับผู้ป่วยใน ประกันสำหรับผู้ป่วยนอก หรือประกันชดเชยรายได้หากต้องนอนโรงพยาบาล
- รูปแบบของความคุ้มครองที่หลากหลาย เช่น แบบเหมาจ่าย หรือ แบบแยกรายจ่าย
- สามารถเลือกพื้นที่ความคุ้มครองที่ต้องการ เช่น คุ้มครองค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาเฉพาะในประเทศไทย หรือรักษาที่ต่างประเทศ (ทั่วโลก)
มีโรงพยาบาลคู่สัญญาชั้นนำครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า
- ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเอง เมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลคู่สัญญาของเอไอเอ (หากค่ารักษาอยู่ในวงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ถืออยู่)
- โรงพยาบาลคู่สัญญากว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
รับสิทธิประโยชน์จากโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้*
- ส่วนลดเบี้ยประกันสุขภาพสูงสุด 15%
- ส่วนลดพิเศษจากหลากหลายพันธมิตรของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ เช่น ส่วนลดฟิตเนส เฟิร์ส สูงสุด 50% ส่วนลดอาหารเพื่อสุขภาพที่ท๊อปซูเปอร์มาร์เก็ต 15% ส่วนลดตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสูงสุด 50% และส่วนลดอื่นๆอีกมากมาย
- เข้าถึง เอไอเอ ไวทัลลิตี้ แอปพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพของคุณ เป็นเรื่องที่สนุกยิ่งขึ้น และดูความก้าวหน้าของสุขภาพตัวเองได้ง่ายๆ
- สามารถสะสมคะแนนเอไอเอ ไวทัลลิตี้ เมื่อคุณเลือกใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี เช่นตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งยิ่งสะสมคะแนนได้มากขึ้น สถานะเอไอเอ ไวทัลลิตี้ก็จะสูงขึ้น พร้อมกับได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก
ประกันสุขภาพของเอไอเอมีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร
ประกันสุขภาพของเอไอเอมี 3 ประเภทหลัก
1. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในและนอก ผู้เอาประกันจะได้รับคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรอบด้าน ทั้งกรณีที่เจ็บป่วยเป็นผู้ป่วยใน (นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล) และผู้ป่วยนอก (พบแพทย์ รับยากลับบ้าน)
2. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีผู้ป่วยใน ผู้เอาประกันสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตามจริงจากการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน โดยแบบประกันของเอไอเอมี 2 แบบ
แบบเหมาจ่าย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล “ตามจริงแบบเหมาจ่าย” เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ โดยสามารถเลือกวงเงินผลประโยชน์สูงสุดได้ถึง 120 ล้านบาทต่อปี
- ครอบคลุมค่ารักษาที่เกิดขึ้นจริง ในวงเงินที่สูงกว่าแบบแยกรายจ่าย
- มีรายการคุ้มครองที่หลากหลายมากกว่าแบบแยกรายจ่าย
- ได้ความอุ่นใจเต็มร้อย แม้ค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่าแบบจำกัดวงเงินแยกรายจ่าย
แบบแยกรายจ่าย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดย “แบ่งวงเงินความคุ้มครองแยกสำหรับแต่ละรายการ” เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่ายา และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ
- ค่าเบี้ยประกันต่ำกว่าแบบเหมาจ่าย เหมาะกับคนที่มีงบทำประกันน้อย
- ความคุ้มครองที่ได้รับจะเป็นไปตามวงเงินความคุ้มครองแยกตามแต่ละรายการที่กำหนด เช่นค่าผ่าตัด 40,000บาท ค่า x-ray 3,000 บาท (ไม่สามารถโอนวงเงินข้ามหมวดหมู่)
3. ชดเชยรายได้กรณีผู้ป่วยใน จ่ายเงินชดเชยตามจำนวนวันที่ผู้เอาประกันต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล