หัวข้อสำคัญ

ถ้าอ่านรายละเอียดแล้ว
ยังไม่ค่อยเข้าใจ ?

ปรึกษาผมก่อนได้นะครับ

ประกันโรคร้ายแรง AIA

ปกป้องความสุขของครอบครัวจากภัยโรคร้ายแรง อย่าให้โรคร้ายแรงทำลายชีวิตคนทั้งบ้าน

เพราะมะเร็งและโรคร้ายแรงเป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตของคนทั้งโลก อาจทำให้ครอบครัวและคนที่คุณรักได้รับผลกระทบทางการเงินจากค่ารักษา แต่หากวันนี้คุณมีการเตรียมพร้อมที่ดี คุณก็จะมีเงินใช้รักษาตัว หรือดูแลตัวเองระหว่างพักฟื้นซึ่งเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาและยังเป็นการปกป้องเงินเก็บของครอบครัวอีกด้วย

ประกันโรคร้ายแรงต่างกับประกันสุขภาพปกติอย่างไร

  • จุดเด่นของประกันโรคร้ายแรงคือ วงเงินความคุ้มครองสูง เบี้ยประกันต่ำ (เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันสุขภาพ) เนื่องจากประกันโรคร้ายแรงจำกัดความคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่กำหนดเท่านั้น จึงทำให้เบี้ยประกันถูกกว่าเบี้ยประกันสุขภาพปกติ
  • ประกันโรคร้ายแรงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเก็บเพียงพอกับค่ารักษาตัวจากการเจ็บป่วยโดยทั่วไป (ซึ่งค่าใช้จ่ายมักจะไม่สูงมาก) แต่ไม่เพียงพอสำหรับค่ารักษาโรคร้ายแรงซึ่งอาจต้องใช้เงินหลักล้าน รวมถึงพนักงานบริษัทและข้าราชการที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว แต่วงเงินอาจไม่สูงพอ

เมื่อไหร่ที่ควรซื้อประกันโรคร้ายแรง

ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่ยังมีสุขภาพที่ดี เพราะตอนอายุน้อยเราจะยังมีสุขภาพแข็งแรง จะมีข้อดีต่างๆ ดังนี้

  • ค่าเบี้ยไม่สูง เพราะอัตราเบี้ยประกันโรคร้ายแรงมักเปลี่ยนตามอายุ ดังนั้น “ยิ่งอายุน้อย เบี้ยยิ่งถูก”
  • ได้ค่าเบี้ยปกติ ไม่มีการปรับเพิ่มเนื่องจากความเสี่ยงด้านสุขภาพ
  • ได้รับความคุ้มครองโรคร้ายแรง โดยไม่มีข้อยกเว้น

แต่พออายุมากขึ้นโรคต่างๆ อาจจะรุมเร้า ก็มีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูงกว่าคนปกติ หากอยากทำประกันบริษัทส่วนใหญ่ก็จะมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้

  1. อนุมัติแต่เบี้ยประกันสูงกว่าคนที่ไม่มีโรคประจำตัว เพราะต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูงกว่าคนปกติ (ขึ้นอยู่กับระดับ ความรุนแรงของโรคที่เป็น)
  2. อนุมัติแต่ขอยกเว้นเฉพาะโรคที่ผู้ขอทำประกันเป็นอยู่ ส่วนโรคอื่นให้ความคุ้มครองตามปกติ
  3. เลื่อนการรับประกันออกไปก่อน กรณีนี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดรักษาโรคหรือเพิ่งหายจากโรคนั้นได้ไม่นาน ทางบริษัทจึงขอเลื่อนรับประกันไปก่อนซัก 6 เดือนถึง 1 ปี แล้วจะพิจารณาใหม่อีกครั้ง
  4. ปฏิเสธการรับประกัน กรณีนี้เกิดจากการที่สุขภาพของผู้ทำประกันไม่อยู่ในหลักเกณฑ์รับประกันจริง ๆ

จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการทำประกันโรคร้ายไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่ารักษาและป้องกันเรื่องไม่คาดฝันได้ทันท่วงที ดังนั้นอย่ารอจนสายเกินไป เพราะโรคร้ายแรง เป็นแล้วทำประกันไม่ได้

แล้วควรเลือกซื้อทุนประกันโรคร้ายแรงเท่าไหร่ดี

ทุนประกันยิ่งสูงยิ่งอุ่นใจ หากท่านมีรายได้หรือเงินเก็บที่เพียงพอต่อการจ่ายเบี้ย เอไอเอแนะนำให้ซื้อทุนประกันโรคร้ายแรงโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 2 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่ามีงบเพียงพอต่อการรักษาพยาบาล ทั้งนี้สำหรับผู้มีรายได้สูงหรือมีความต้องการรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ทุนประกันที่เหมาะสมก็จะเพิ่มขึ้นไป เช่น 3-10 ล้านบาท

ประกันโรคร้ายแรงของเอไอเอ โดดเด่นอย่างไร

  • เอไอเอมีแบบประกันโรคร้ายแรงที่หลากหลายให้ท่านเลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบที่เน้นคุ้มครองโรคที่พบบ่อยไม่กี่โรค ไปจนถึงแบบที่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมทั้งระยะต้นไปถึงระยะรุนแรง สำหรับท่านที่ต้องการความคุ้มครองที่สูงมาก เรามีวงเงินรับประกันที่สูงถึงมากกว่า 50 ล้านบาท (ขึ้นกับประเภทของแบบประกันและสุขภาพของผู้เอาประกัน)
  • เอไอเอมอบส่วนลดเบี้ยประกันโรคร้ายแรงสูงสุดถึง 25% สำหรับแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (ดูรายชื่อแบบประกัน คลิก) หากท่านตั้งใจดูแลสุขภาพของตนเอง พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมาย
  • ด้วยพันธมิตรกับโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชนชั้นนำกว่า 200 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเข้ารับการรักษาและให้ข้อมูลในการเบิกสินไหม
  • มั่นใจว่าประกันโรคร้ายแรงของเอไอเอเป็นที่นิยมสูง ด้วยรางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย” ในหมวด “ประกันสุขภาพ” ติดต่อกันถึง 9 ปีซ้อน

 

คำถามที่พบบ่อย

Q: ระยะเวลารอคอย (WAITING PERIOD) คืออะไร

A: ระยะรอคอย เป็นระยะเวลาหลังจากซื้อกรมธรรม์ใหม่ที่ผู้ซื้อกรมธรรม์ (ผู้เอาประกันภัย) จะยังไม่สามารถเรียกร้องเงินสินไหมชดเชยได้ เพื่อเป็นการป้องกันการเบิกจ่ายของผู้ที่เจ็บป่วยก่อนการทำประกันภัย โดยทั่วไประยะเวลารอคอยของโรคร้ายแรงจะมีระยะเวลารอคอยอยู่ 30 – 120 วัน ขึ้นอยู่กับโรคและเงื่อนไขตามที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์

Q: ค่าเบี้ยประกันภัยปรับตามอายุหรือไม่

A: ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงจะมีการปรับเบี้ยตามช่วงอายุทุกๆ 1 ปี หรือ 5 ปี ขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เลือก

Q: ถ้าไม่ตรวจพบโรคร้ายแรงในช่วงที่ได้รับความคุ้มครอง เมื่อครบสัญญาจะได้รับผลประโยชน์อะไร

A: สำหรับสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง เนื่องจากเป็นการซื้อความคุ้มครองความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นผู้เอาประกันจะไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเมื่อครบสัญญา

Q: ถ้าครอบครัวมีประวัติโรคร้ายแรง จะทำประกันได้ไหม

A: ทำได้ แต่บริษัทอาจขอเพิ่มเบี้ยประกัน หรือ ไม่รับคุ้มครองบางโรค ตามดุลพินิจของบริษัท ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันที่ต้องกรอกข้อมูลในใบสมัครตามความเป็นจริงทุกข้อ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงเรียกร้องสินไหม

Q: หากเคยเป็นโรคร้ายแรงแต่รักษาหายแล้ว จะซื้อได้หรือไม่

A: กรณีที่เคยเป็นโรคร้ายแรงมาก่อน จะต้องได้รับการพิจารณาจากทางฝ่ายพิจารณารับประกันโดยจะประเมินความเสี่ยงจากประวัติการรักษาภายในระยะเวลา 5 ปีและเอกสารยืนยันทางการแพทย์ ในการอนุมัติการซื้อประกัน

Q: ซื้อแต่เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมอย่างเดียวได้หรือไม่

A: ไม่ได้ หากเป็นสัญญาเพิ่มเติมจะใช้แนบกับแบบประกันชีวิตหลักเท่านั้น

Q: ใช้เอกสารอะไรบ้างในการเบิกเคลมค่ารักษาโรคร้ายแรง

A: สำหรับประกันโรคร้ายแรง เอกสารที่ใช้มีดังนี้

  • แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมชดเชยโรคร้ายแรง
  • ผลการตรวจเนื้อเยื่อ เลือด หรือไขกระดูกทางกล้องจุลทรรศน์โดยพยาธิแพทย์ หรือแพทย์ทางโลหิตวิทยา

หมายเหตุ: บริษัทอาจขอเอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณา

post tags :
44 โรคร้ายแรง AIA AIA Legacy Prestige AIA Prestige UNIT LINKED กองทุนมรดก ความคุ้มครองสูง คุ้มครองรายได้ คุ้มครองโรคมะเร็ง ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ICU ค่าห้อง ค่าอาหาร โรงพยาบาล ตัวแทนประกันชีวิต ที่ปรึกษาด้านการเงิน ทุนการศึกษาบุตร ประกันคุ้มครองพิการ ประกันคุ้มครองสูง ประกันชีวิต ประกันชีวิต1ล้านบาท ประกันชีวิต10ล้านบาท ประกันชีวิตควบการลงทุน ประกันทุพพลภาพ ประกันมรดก ประกันยูนิตลิ้งค์ ประกันลดหย่อนภาษี ประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพของที่ไหนดี ประกันสุขภาพเด็ก ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ประกันหัวหน้าครอบครัว ประกันโรคร้ายแรง ประกันโรคหัวใจ มรดก ลดหย่อนภาษี ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1แสนบาท วางแผนมรดก หลักประกันครอบครัว หลักประกันรายได้ หลักประกันรายได้ครอบครัว หลักประกันหัวหน้าครอบครัว หัวหน้าครอบครัวควรเตรียม ออมทรัพย์ เงินประกันชีวิต เอไอเอ